องค์ที่ 94 สมเด็จพระสันตะปาปาสเตเฟน ที่ 3 (Pope Stephen III ค.ศ. 768-772)

Published on Monday, 26 September 2016 03:39

Written by หอจดหมายเหตุ

สมเด็จพระสันตะปาปาสเตเฟน ที่ 3

(Pope Stephen III ค.ศ. 768-772)

เมื่อพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 1 สิ้นพระชนม์ ได้เกิดการแย่งอำนาจพระสันตะปาปาระหว่างท่านคอนสแตนตินและท่านฟิลิปและเพื่อขจัดปัญหานี้ ท่านคริสโตเฟอร์ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบยื่นเสนอชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ก็ได้เสนอชื่อของท่านสเตเฟน ที่ 3 ขึ้นมาเป็นพระสันตะปาปาที่ถูกต้องแทน อันที่จริงก่อนหน้านี้ดยุคโตโต้ก็เคยใช้อำนาจและตกลงกันกับคริสโตเฟอร์ก่อนแล้วว่าจะให้มีการเลือกตั้งพระสันตะปาปาอย่างชอบธรรม แต่ภายหลังดยุคโตโตได้ผิดสัญญาและผลักดันให้น้องชายคือ คอนสแตนตินขึ้นมารับตำแหน่งแทนตามที่กล่าวไว้แล้ว เมื่อพิธีแต่งตั้งคอนสแตนตินผ่านไปแล้ว ผู้คนริเริ่มแสดงปฏิกิริยาไม่ยอมรับการแต่งตั้งนี้ ท่านคริสโตเฟอร์เลยถือโอกาสตั้งท่านสเตเฟนขึ้นมาเป็นพระสันตะปาปาที่ถูกต้องตามกฎหมายแทน พระสันตะปาปาสเตเฟน ที่ 3 เป็นชาวซิซิลี มาเติบโตในโรม และรับใช้ในสันตะสำนักในสมัยพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 1 สมัยปกครองของพระองค์เริ่มวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 768 พระสันตะปาปาสเตเฟน ที่ 3 ไม่มีอำนาจมากพอที่จะจัดการกับปัญหาพระสันตะปาปาซ้อนคือ ท่านคอนสแตนติน (ส่วนท่านฟิลิปนั้นไม่มีปัญหาเพราะอยู่ในตำแหน่งเพียงแค่ข้ามคืน)

กระนั้นก็ตามพระองค์ก็ได้พยายามเข้าไปจัดการกับปัญหาดังกล่าวจนสุดความสามารถไม่ว่าจะเป็นการเรียกประชุมสภาพระสังฆราชที่วังลาเตรัน และมีการเผากฤษฎีกาของคอนสแตนตินที่ประกาศใช้ อีกทั้งประกาศให้การสถาปนาพระสันตะปาปาคอนสแตนตินเป็นโมฆะ ที่ประชุมลงความเห็นให้ออกกฎห้ามฆราวาสมายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งพระสันตะปาปา และห้ามเลือกฆราวาสให้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา พระองค์ได้สร้างสัมพันธไมตรีกับพวกลอมลาร์ดอีกครั้ง ซึ่งขณะนั้นกษัตริย์เดสิเดรีอุสปกครองอยู่ แต่สัมพันธภาพที่มีเลศนัยได้กลายเป็นผลร้ายมากกว่าคือ กษัตริย์ได้ถือโอกาสชักชวนให้พระสันตะปาปาสเตเฟนเลิกล้มความสัมพันธ์กับกษัตริย์ชาร์ลเลอมาญ (ฝรั่งเศส) และให้ส่งตัวคริสโตเฟอร์พร้อมด้วยบุตรชายคือ เซอร์จีอุสให้แก่พวกลอมบาร์ด (ซึ่งเกลียดท่านคริสโตเฟอร์มาก) ส่วนพวกที่เข้าข้างกษัตริย์ฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในโรมก็ถูกลอบสังหารมากมาย ท่านคริสโตเฟอร์และบุตรชายถูกควักดวงตาและถูกฆ่าตายในที่สุด กว่าที่พระสันตะปาปาสเตเฟน ที่ 3 จะทรงทราบว่าถูกหลอกใช้ก็สายเกินไปเสียแล้ว พระองค์ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากเป็นเสมือนนักโทษของกษัตริย์ลอมบาร์ดนั่นเอง ส่วนทางฝรั่งเศสจักรพรรดิชาร์ลเลอมาญได้ประกาศยกเลิกพิธีแต่งตั้งงานของพระองค์กับธิดาของกษัตริย์เดซิเดรีอุสในปี ค.ศ. 771 และทั้งสองก็เริ่มเผชิญหน้า และยกกำลังเข้าต่อสู้กันในเวลาต่อมา ขณะนั้นพระสันตะปาปาสเตเฟนไม่มีโอกาสได้เห็นความย่อยยับของพวกลอมบาร์ด เพราะสิ้นพระชนม์ก่อนในวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 772