สมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 4
(Pope Clement IV ค.ศ. 1265-1268)
พระองค์มีพระนามเดิมว่า กีย์ ฟุลค์ เกิดที่ฝรั่งเศส ราวปี ค.ศ. 1195 เป็นนักกฎหมายที่มีชื่อเสียง รับใช้พระเจ้าหลุยส์ ที่ 9 แต่งงานและมีบุตรสองคน ในปี ค.ศ. 1256 ภรรยาของท่านสิ้นชีวิต ท่านจึงบวชและเข้าคณะคาร์ทูเซียน (เหมือนบิดาของท่านที่เมื่อมารดาของท่านสิ้นชีวิต บิดาของท่านก็ได้เข้าบวชเช่นกัน) พระสันตะปาปาอูรบันที่ 4 แต่งตั้งให้ท่านเป็นพระคาร์ดินัลในปี ค.ศ. 1261 ท่านได้ทำหน้าที่ผู้แทนพระสันตะปาปาประจำฝรั่งเศสและอังกฤษ เมื่อพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์ ท่านอยู่ระหว่างการปฏิบัติงานที่อังกฤษ ภายหลังได้รับเรียกให้กลับมาประชุมร่วมกับบรรดาพระคาร์ดินัลที่เปรูยา เพื่อเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ โดยไม่คิดมาก่อน พระคาร์ดินัลได้ลงมติเป็นเอกฉันท์เลือกท่านกีย์ ให้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ในนาม พระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 4 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1265 ท่านปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งแต่คณะพระคาร์ดินัลเร่งเร้าให้ท่านยอมรับหน้าที่เพื่อเห็นแก่พระศาสนจักร พระองค์ได้รับการอภิเษก เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1265 ที่เมืองวิแตร์โบ
เมื่อได้รับตำแหน่งแล้ว ก็ต้องพบกับปัญหาน่าหนักใจ เพราะมีคนมาขอลูกสาวของพระองค์แต่งงาน ชาวเมืองเลยพูดกันเล่นๆว่า มาขอลูกสาวพระสันตะปาปา พระสันตะปาปาเคลเมนต์จึงต้องประกาศว่า เขาไม่ได้มาขอลูกสาวของพระสันตะปาปาแต่ขอลูกสาวของกีย์ ฟุลค์ แต่บุตรีทั้งสองเลือกที่จะเข้าอารามบวชเป็นนักพรต จึงถือเป็นโชคของพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ไม่ต้องเป็นพ่อตาหรือคุณตาของหลานในอนาคต พระสันตะปาปาเป็นผู้ที่ต่อต้านธรรมเนียมเลือกคนในตระกูลให้ดำรงตำแหน่งสูง เล่นพรรคเล่นพวก และเป็นผู้ที่ถือพรตเคร่งครัด ในสมัยของพระองค์นี้อิทธิพลของราชวงศ์โฮเฮนสเตาเฟินเริ่มเสื่อมลง ในปี ค.ศ. 1266 พระองค์ได้สวมมงกุฎให้แก่พระเจ้าชาร์ลแห่งอันจูได้เป็นกษัตริย์เหนือเนเปิลและซิซิลีและใช้กษัตริย์ชาร์ลเป็นผู้กำจัดอำนาจของเมนเฟรดและคอนราดินที่เป็นปัญหากับสันตะสำนักเรื่อยมาโดยเฉพาะการสู้รบที่เบเนเวนโตในปี ค.ศ. 1266 และที่ตากลิอาคอสโซ ในปี ค.ศ. 1268 ซึ่งกองทัพของเมนเฟรดถูกทำลายย่อยยับ เมนเฟรดสิ้นชีวิตที่เบเนเวนโตและคอนราดิน ถูกพระเจ้าชาร์ลจับตัดศีรษะในวันที่ 29 ตุลาคม หลังจากที่ถูกจับขณะที่พยายามหลบหนี อย่างไรก็ตามแม้พระสันตะปาปาเคลเมนต์จะนำชัยชนะมาสู่สันตะสำนัก แต่ชาวโรมไม่ค่อยพอใจพระสันตะปาปานัก เพราพวกเขาชอบคอนราดิน และไม่อยากเห็นพระเจ้าชาร์ลมามีอำนาจเหนือดินแดนอิตาลี ดังนั้นชาวโรมจึงหาวิธีอื่นข่มขู่และก่อปัญหาให้พระสันตะปาปา “ดันเต” ได้เขียนในหนังสือ Inferno (ไฟนรก) บรรยายสถานการณ์ของโรมและพระสันตะปาปาในสมัยนี้ว่า เป็นดังสงครามที่ลาเตรัน ต้องต่อสู้ไม่ใช่กับพวกซาราเซนหรือยิว
พระสันตะปาปาเคลเมนต์สิ้นพระชนม์ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1268 พระองค์ได้ทุ่มเททำงานเพื่อฟื้นสถานภาพของพระสันตะปาปาหลายเรื่อง แต่ก็ต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินไปไม่น้อย พระศพของพระองค์ฝังไว้ที่อารามซานตามาเรียของคณะโดมินิกันที่วิแตร์โบ หลังจากนี้ไปเป็นช่วงเวลาที่ว่างพระสันตะปาปาดำรงตำแหน่งนานถึง 3 ปี