องค์ที่ 200 สมเด็จพระสันตะปาปาบุญราศีอูรบัน ที่ 5 (Pope BI. Urban V ค.ศ. 1362- 1370)

 

สมเด็จพระสันตะปาปาบุญราศีอูรบัน ที่ 5

(Pope Bl. Urban V ค.ศ. 1362-1370)

สมัยปกครองของพระสันตะปาปาอูรบัน ที่ 5 นี้ เรียกกันว่าเป็นสมัยเชลยศึกแห่งบาบิโลน (มีสมัยหนึ่งที่ชาวยิวถูกส่งไปเป็นเชลยศึกในเมืองบาบิโลน)
 
เดิมชื่อ กีโยม เดอ กริโมอาร์ (Guillaum de Grimoard) เกิดในตระกูลขุนนางของเมืองลังเกอโด ได้รับการศึกษาที่มองต์เปลลิเยและที่ตูลุส เข้าคณะเบเนดิกตินและอยู่ที่อารามนักบุญวิกเตอร์ที่เมืองมาร์แซยล์ ได้รับปริญญาเอกในปี ค.ศ. 1342 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอธิการอารามแซงค์แยร์แมงแห่งโอแซร์ ในปี ค.ศ. 1352 ปีต่อมา ท่านเป็นผู้แทนที่พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ไว้วางพระทัย เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์แล้วคณะพระคาร์ดินัลได้เลือกน้องชายของพระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 6 แต่ท่านปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งนี้ คะแนนจึงตกมาที่ท่านกีโยม ซึ่งตอนนั้นไม่ได้มีตำแหน่งพระคาร์ดินัลและกำลังทำหน้าที่อยู่ที่เนเปิล เมื่อทราบว่าได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาท่านจึงรีบเดินทางกลับมาที่มาร์แซยส์ และได้รับการอภิเษกที่อาวีญองในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1362 ที่ท่านได้รับเลือกก็เพราะท่านมีชื่อเสียงว่า เป็นผู้มีคุณธรรมและศักดิ์สิทธิ์ และนั่นก็ไม่ได้ทำให้บรรดาผู้ที่เลือกท่านผิดหวัง เพราะเมื่อได้รับตำแหน่งพระสันตะปาปาและใช้ชื่อว่า พระสันตะปาปาอูรบัน ที่ 5
 
ภารกิจหลักที่พระองค์ตั้งใจจะทำ คือ นำสันติมาสู่ยุโรป และทำการปฏิรูปสันตะสำนัก  นักพรตเบเนดิกตินผู้นี้ยังดำเนินชีวิตนักพรตอย่างสม่ำเสมอ และให้เหตุผลว่าพระสันตะปาปาต้องมีเวลาภาวนาห้ามใครมาแย่งเวลานี้ไป ที่พระองค์ใช้นามอูรบันเพราะที่ผ่านๆ มา พระสันตะปาปาที่ใช้นามนี้มักจะเป็นผู้ที่น่านับถือและศักดิ์สิทธิ์เป็นส่วนมาก ที่อาวีญอง พระองค์เข้มงวดเรื่องการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของผู้บริหารในการปฏิบัติงานทั้งหลาย เป็นต้นวินัยสงฆ์ พระองค์ตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่าจะเชื่อมสัมพันธภาพกับพระศาสนจักรตะวันออกใหม่และนำสันตะสำนักกับไปที่โรม ประการหลังนี้สำเร็จในวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 1367 ซึ่งเป็นวันที่พระองค์ได้เดินทางเข้ากรุงโรม แม้จะมีเสียงขัดขวางจากขุนนางฝ่ายฝรั่งเศสก็ตาม ที่โรมพระองค์ได้เริ่มต้นบูรณะโบสถ์ต่างๆ ที่ถูกทำลายให้อยู่ในสภาพที่ดี
 
ในปี ค.ศ. 1369 พระองค์ได้ต้อนรับจักรพรรดิยอห์น ที่ 5 แห่งไบเซนไทน์ (แต่การรวมยังไม่สำเร็จ) การอยู่โรมของพระสันตะปาปาอูรบันที่ 5 ทำได้เพียง 3 ปี เนื่องจากปัญหาความไม่สงบในรัฐพระสันตะปาปาและที่อื่นๆ และปัญหาการบริหารที่ไปๆ มาๆ ระหว่างโรมและอาวีญอง พระองค์จึงตัดสินใจจะเดินทางกลับที่อาวีญอง ความคิดนี้มีคนคัดค้านมากมาย เป็นต้นนักบุญบริจิตแห่งสวีเดน เนื่องจากเห็นว่าเสี่ยงต่อความปลอดภัยอย่างยิ่งในสถานการเช่นนั้น ถ้าหากจะกลับไปที่อาวีญองอีก นอกนั้นชาวโรมและนักเขียนอย่างเปทราคก็คัดค้านความคิดดังกล่าวด้วย แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะที่สุดพระองค์ได้ตัดสินใจเดินทางกลับไปอาวีญอง โดยถึงที่นั่นในวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 1370 พระสันตะปาปาอูรบัน ที่ 5 ทรงดำเนินชีวิตที่เคร่งครัดและเรียบง่าย ทางเป็นผู้มีใจเมตตา ในฐานะผู้อุปถัมภ์การเรียนรู้ พระองค์ทรงก่อตั้งมหาวิทยาลัยใหม่ที่เมืองออร์เรนจ์ คราคูฟ และเวียนนา เช่นกัน เหรียญกษาปณ์พระสันตะปาปาที่มีวิวัฒนาการมาโดยตลอดตามสภาวะทางการเมือง การปกครอง และการค้า ได้นำกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่งในสมัยของพระองค์ (ค.ศ. 1362-70) พระองค์ทรงกลับคืนสู่โรมจากอาวีญองใน ค.ศ. 1367 ได้รับสิทธิ์ในโรงกษาปณ์ของกรุงโรม ซึ่งผลิตเหรียญเป็นรูปกุญแจไขว้มงกุฎ 3 ชั้น และสัญลักษณ์อื่นๆ
 
พระองค์สิ้นพระชนม์ในวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 1370 จากชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์จึงได้รับการสถาปนาให้เป็นบุญราศีเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1870 โดยพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 9