องค์ที่ 214 สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6 (Pope Alexander VI ค.ศ. 1492-1503)

สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6
 
(Pope Alexander VI ค.ศ. 1492-1503)
 
พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6 เดิมชื่อ โรดิโก เดอ บอร์เจีย เกิดที่หมู่บ้านจาติวาใกล้ๆ เมืองวาเลนเซีย ประเทศสเปน ดูจากนามสกุลก็ทราบแล้วว่าท่านมาจากตระกูลที่ทรงอิทธิพลคือ ตระกูลบอร์เจีย ซึ่งมีคนในตระกูลเป็นพระสันตะปาปา คือ พระสันตะปาปากัลลิสตุส ที่ 3 (ค.ศ. 1455-58) ท่านโรดิโก ได้รับตำแหน่งพระคาร์ดินัลโดยที่ตอนนั้นยังเป็นฆราวาสอยู่   และในปีต่อมาก็ได้รับตำแหน่งเป็นรองผู้บริหารสันตะสำนักเป็นลูกครึ่งสเปนและอิตาเลียน เป็นคนมีสติปัญญาเฉียบแหลมเป็นต้นในการจัดการท่านมีอิทธิพลสูงในตอนที่มีการเลือกตั้งพระสันตะปาปาซิกตุส ที่ 4 เนื่องจากท่านไม่ได้เป็นนักบวชหรือพระสงฆ์ แต่มีตำแหน่งสูงในสถาบันสงฆ์
 
พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6 เจริญชีวิตทางโลกมากกว่าทางธรรม มีชื่อเสียงไม่ดีในเรื่องรับสินบน เป็นพระสันตะปาปาที่มีความทะเยอทะยานสูง การละเลยความสำคัญด้านจิตวิญญาณต่อพระศาสนจักรเป็นสาเหตุแห่งการพัฒนาสู่การปฏิรูปของลัทธิโปรเตสแตนต์
 
โรดิโก ได้รับการดูแลโดยลุง ได้แก่ พระสังฆราชอลอนโซ เดอ บอร์เจีย (ต่อมาได้เป็นพระคาร์ดินัล) แนะนำด้านการเรียนและการมอบผลประโยชน์ในพระศาสนจักรขณะยังอยู่ในวัยรุ่น โรดิโกเลือกเรียนวิชากฎหมายที่เมืองโบโลญา ต่อมาวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1456 ได้รับสถาปนาเป็นพระคาร์ดินัลโดยลุงซึ่งดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปากัลลิสตุส ที่ 3 ในขณะนั้น
 
ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงของพระศาสนจักร พระคาร์ดินัลโรดิโกแสวงหาผลประโยชน์และความมั่งคั่งจากพระศาสนจักร ดำเนินชีวิตสะดวกสบายฝ่ายโลก  โดยไม่รับฟังคำตักเตือนจากพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 2 ท่านอุปถัมภ์งานศิลปะอย่างมาก มีครอบครัวอย่างไม่เปิดเผยในประเทศสเปน นอกจากนี้ยังมีสัมพันธ์กับนางวันโนซ่า คาตานี หญิงมีตระกูลสูงชาวโรมมีบุตรถูกต้องตามกฎหมาย 4 คน ได้แก่ ฮวน เซซาเร โจเฟร และลูเครเซีย เมื่อท่านโรดิโกได้รับเลือกตั้งเป็นพระสันตะปาปาก็ได้หย่าขาดจากนางวันโนซ่า ภรรยา การประกอบอาชีพของลูกแต่ละคนนำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่พระศาสนจักรในสมัยปกครองของพระองค์อย่างยิ่ง
 
ท่านโรดิโกมีความใฝ่ฝันอยากเป็นพระสันตะปาปามานานแล้ว แต่พระสันตะปาปาซิกตุส ที่ 4 ได้ตำแหน่งไปก่อน เมื่อพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ ที่ 8 สิ้นพระชนม์ เขาได้พยายามอีกครั้งโดยติดสินบนและใช้อิทธิพลต่างๆ เพื่อให้ได้คะแนนเสียง ส่วนใหญ่จากพระคาร์ดินัลทั้งหลาย วันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1492 ท่านโรดิโกจึงได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาใช้นาม พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6
 
ต้นสมัยปกครองพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 ทรงดำเนินการปฏิรูปการเงินของสันตะสำนัก ทั้งยังสานต่อนโยบายของพระสันตะปาปาพระองค์ก่อน  ในการทำสงครามต่อต้านพวกออตโตมันเติร์ก การบริหารปกครองส่วนใหญ่เรียบร้อยดี เพราะได้พยายามปฏิรูประบบต่างๆ ที่ล่าช้าในสันตะสำนักใหม่ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทรงนำความสงบมาสู่โรมพอสมควร
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ความกระตือรือร้นของพระองค์ก็ค่อยลดลง ทรงหาความสำราญและสนพระทัยแต่ในวงศ์ญาติตระกูลบอร์เจีย ฟุ้งเฟ้อสุรุ่ยสุร่าย ทรงแต่งตั้งลูกชายที่ชื่อ เซซาเร ให้เป็นพระคาร์ดินัลขณะมีอายุเพียง 18 ปี (เป็นพระคาร์ดินัลหนึ่งในห้าองค์จากตระกูลบอร์เจีย)  พระองค์ทรงหวังว่า ฮวน ลูกชายคนโตจะมีโอกาสขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งเนเปิล แต่ฮวนถูกฆ่าตายก่อน ในคืนหนึ่งขณะที่ฮวนกินเลี้ยงกับน้องชายเซซาเรและต่อมามีคนพบศพฮวนลอยในแม่น้ำไทเบอร์ หลายเสียงเชื่อว่าโศกนาฎกรรมครั้งนี้มาจากการฆ่ากันเองระหว่างพี่น้อง
 
จากการตายของบุตรชายนี้เอง ทำให้พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6 พอจะตื่นจากความฝันได้บ้าง พระองค์เริ่มปฏิรูปตนและจัดบริหารสันตะสำนักใหม่ แต่ก็เช่นเคยทำได้ไม่นานแถมยังทรุดหนักกว่าเดิมอีก เนื่องจากตระกูลบอร์เจียได้ฝังรากลึกในสันตะสำนักมากแล้ว จนผู้คนต่างกล่าวกันว่า สันตะสำนักนั้นคือ ทาสในเรือนเบี้ยของตระกูลบอร์เจีย  คนที่สร้างปัญหามากที่สุดคือ เซซาเร บุตรชายของพระองค์เอง
 
พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6 มีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์สำคัญที่ไม่ดีหลายอย่างเช่น เป็นผู้ออกสาสน์ที่ทำให้เกิดปัญหาระหว่างสเปนและโปรตุเกสกรณีแบ่งดินแดนโลกใหม่ พระองค์ได้ให้เซซาเรดูแลเรื่องการเงินและพระคุณการุณย์ของพระสันตะปาปา พระองค์ยุ่งเกี่ยวกับเผด็จการที่ชื่อ ซาโวนา โรร่า (ซึ่งถูกจับเผาทั้งเป็นในปี ค.ศ. 1498)
 
พระคาร์ดินัลซีซาเร ลาออกจากฐานันดรสงฆ์ ใน ค.ศ. 1498 และได้แต่งงานกับชาร์ลลอต เพื่อความเป็นทองแผ่นเดียวกันระหว่างตระกูลบอร์เจียและราชวงศ์ของกษัตริย์หลุยส์ ที่ 12 ซีซาเรใช้กองกำลังยึดดินแดนทางตอนเหนือของอิตาลีไว้ภายใต้การปกครองของตน นิคโคโล แมคเคียวิลลี นักประพันธ์ชื่อดังได้ใช้แบบอย่างการดำเนินชีวิตของซีซาเรเป็นเค้าโครงเรื่องจินตกวีนิพนธ์ที่มีชื่อของเขาที่ชื่อ “เจ้าชาย” หรือ (The Prince)
 
ในกรุงโรม พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6 ได้โค่นอำนาจของตระกูลออร์ซีนี และตระกูลโคลอนนาที่เคยมีอิทธิพลและชื่อเสียง ทรงเป็นพันธมิตรกับประเทศสเปน
 
ในฐานะผู้อุปถัมภ์งานด้านศิลปะ พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6 ก่อตั้งศูนย์กลางของมหาวิทยาลัยแห่งโรม (University of Rome) ฟื้นฟูปฏิสังขรณ์ปราสาทซานอันเยโล สร้างสำนักงานการทูตของสันตะสำนัก (Apostolic Chancery) ที่ยิ่งใหญ่เป็นอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงพระองค์ ทรงประดับประดาพระราชวังวาติกัน และมอบหมายไมเคิล อันเยโล ให้ออกแบบสร้างพระมหาวิหารนักบุญเปโตรหลังใหม่ ทรงประกาศปี ค.ศ. 1500 เป็นปีศักดิ์สิทธิ์ และจัดเฉลิมฉลองปีปิติมหาการุญอย่างเอิกเกริก
 
ผลงานดังกล่าวไม่สามารถลบล้างความประพฤติส่วนตัวที่เสียชื่อเสียงของพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6 ได้ เรื่องอื้อฉาวในกิจการต่างๆ ตลอดสมัยปกครองเป็นที่โจษจันไปทั่ว จึงเป็นหนึ่งในบรรดาพระสันตะปาปาที่มีภาพลักษณ์ไม่ดีในประวัติศาสตร์พระศาสนจักร
 
พระองค์สิ้นพระชนม์แบบปัจจุบันทันด่วนใน วันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 1503 เมื่อสิ้นสมัยปกครองพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6 ต่างมีความเห็นพ้องต้องกันว่า สันตะสำนักจำต้องมีการปฏิรูปอย่างจริงจัง