องค์ที่ 245 สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิก ที่ 13 (Pope Benedict XIII ค.ศ. 1724-1730)

สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิก ที่ 13
(Pope Benedict XIII ค.ศ. 1724-1730)

พระองค์มีพระนามเดิมว่า ปิเอโตร ฟรันเชสโก ออร์ซินี เกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1649 จากตระกูลออร์ซินีที่เคยมีพระสันตะปาปาจากตระกูลนี้หลายองค์ในอดีต เมื่ออยู่ในวัยเยาว์ท่านมีความสนใจในชีวิตนักบวช จึงได้สมัครเข้าคณะโดมินิกัน เมื่ออายุได้ 16 ปี ซึ่งบิดาไม่ค่อยชอบนักเพราะหวังว่าบุตรหัวปีของครอบครัวน่าจะเป็นผู้สืบตระกูล และดูแลมรดกของครอบครัว บิดาจึงร้องเรียนไปยังพระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 9 ขอให้ห้ามคณะโดมินิกันรับบุตรชายของตนเข้าคณะ ตรงกันข้ามนอกจากไม่ห้ามแล้วพระสันตะปาปายังอนุญาตให้ร่นเวลาของการเตรียมตัวเข้าคณะให้สั้นลง เพื่อจะได้ถวายตนเป็นสมาชิกคณะโดยเร็ว
 
เมื่อเป็นสมาชิกคณะโดมินิกันแล้ว ท่านปิเอโตรก็ไม่ได้ทำให้เจ้าคณะผิดหวัง เพราะท่านเป็นอาจารย์สอนเมื่ออายุเพียง 21 ปีเท่านั้น จากความปราดเปรื่องในด้านสติปัญญา พระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 10 ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติคนหนึ่งได้แต่งตั้งท่านปิเอโตรเป็นพระคาร์ดินัลในปี ค.ศ. 1672 เมื่อได้รับตำแหน่งพระคาร์ดินัลแล้วท่านเลือกที่จะดำเนินชีวิตนักพรตธรรมดาๆ และเลือกที่จะเป็นสังฆราชแห่งแมนเฟรดโดเนีย เพราะเป็นสังฆมณฑลที่ห่างไกลและยากจนกว่าที่อื่นๆ ในปี ค.ศ. 1724 ท่านได้เข้าร่วมประชุมพระคาร์ดินัล เพื่อเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ (เป็นการร่วมประชุมครั้งที่ 5 ในชีวิตของท่าน) สืบตำแหน่งต่อจากพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ ที่ 13  คณะที่ประชุมมีความคิดแตกต่างกันหลากหลายต้องใช้เวลาประชุมนานถึง 9 สัปดาห์กว่าจะมาพิจารณาคุณสมบัติของท่านปิเอโตร คณะพระคาร์ดินัลเห็นว่า ท่านเป็นคนไม่เข้าข้างฝ่ายใด เป็นผู้รักชีวิตสงฆ์และสมถะในชีวิตนักพรต ตอนแรกท่านปฏิเสธแต่ต่อมาก็ยอมรับและเลือกใช้นามว่า พระสันตะปาปาเบเนดิก ที่ 14 แต่เมื่อเห็นว่าชื่อนี้เคยเป็นชื่อของพระสันตะปาปาซ้อนมาก่อน ท่านก็เปลี่ยนเป็นพระสันตะปาปาเบเนดิก ที่ 13 แทน 
 
พระองค์เป็นพระสันตะปาปาที่มีชีวิตฝ่ายจิตลึกซึ้ง ทรงให้เวลากับการภาวนาและรำพึงมาก รวมทั้งการสวดสายประคำ พระองค์ออกมานั่งฟังแก้บาปที่พระมหาวิหารนักบุญเปโตร ไปเยี่ยมคนคนป่วย คนชรา คนยากจน พระองค์พยายามแก้ปัญหาการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยของคณะบริหารสันตะสำนัก กำหนดให้บรรดาพระสงฆ์ใช้เครื่องแบบที่เรียบง่ายไม่หรูหรา นอกนั้นทรงสั่งห้ามพระคาร์ดินัลใส่วิก (ผมปลอมอันเป็นแฟชั่นที่เหล่าขุนนางชอบกันในยุคนั้น)  ที่เกี่ยวกับการพนันพระองค์สั่งห้ามเด็ดขาด รวมไปถึงการห้ามเล่นหวยที่ชาวโรมติดกันงอมแงมด้วย น่าเสียดายพระองค์ไว้ใจคนผิด ทรงมอบหมายเรื่องการบริหารต่างๆ ให้อยู่ในอำนาจของพระคาร์ดินัล นิโคโล คอสเซีย (Niccolo Coscia) ผู้ไม่ค่อยมีคุณสมบัติที่เหมาะสมด้านนี้ และใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนทำให้เงินท้องพระคลังร่อยหรอลง แต่กว่าที่พระสันตะปาปาเบเนดิกจะทราบเรื่องก็มาถึงวันที่พระองค์ใกล้จะสิ้นพระชนม์แล้ว พระสันตะปาปาเบเนดิก ที่ 13 สิ้นพระชนม์ ในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 1973