องค์ที่ 249 สมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 14 (Pope Clement XIV ค.ศ. 1769-1774)

 

สมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 14
(Pope Clement XIV ค.ศ. 1769-1774)
 
พระองค์มีพระนามเดิมว่า โลเรนโซ กันกาเนลลี (ในหนังสือบันทึกศีลล้างบาป ท่านใช้ชื่อว่า โจวันนี วินเซ็นโซ อันโตนิโอ) เกิดวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 1705 ที่ซานอาร์ค อันเจโล ใกล้เมืองริมินี บิดาเป็นแพทย์ประจำหมู่บ้าน เมื่ออายุได้ 17 ปี ท่านได้เข้าคณะฟรันซิสกัน ในปี ค.ศ. 1731 ได้รับปริญญาเอกทางเทววิทยา เป็นอาจารย์สอนอยู่หลายปีก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอธิการบ้านโบนาเวนตรูราที่โรม ในปี ค.ศ. 1740 ท่านมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ นักการศึกษา ในปี ค.ศ. 1759 ยอมรับตำแหน่งพระคาร์ดินัลที่พระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 13 ทรงแต่งตั้งท่านเป็นผู้ที่สนับสนุนคณะเยสุอิตอย่างแข็งขันแต่ภายหลังก็อ่อนลง เป็นต้นในปลายสมัยของพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 13 ปัญหาของคณะเยสุอิตนี้รุนแรงมากที่สุด ในปี ค.ศ. 1769 และเป็นปีที่พระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 13 จากไปทิ้งปัญหานี้ไว้เบื้องหลัง
 
ดังนั้น เมื่อมีการประชุมพระคาร์ดินัล พวกเขาก็รู้ได้ถึงความกดดันจากทั้งฝรั่งเศส สเปนและเจ้านครอื่นๆที่บังคับให้พวกเขาเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ที่ให้ความมั่นใจได้ว่าจะทำการยุบคณะเยสุอิตแน่นอน เหล่าพระคาร์ดินัลก็พยายามต่อต้านความคิดนี้แต่ก็ทานไม่ไหว ผู้แทนจากฝรั่งเศสคือ ทูตโอแบเตเร กล่าวด้วยความแข็งกร้าวโดยยื่นคำขาดว่าในจำนวนพระคาร์ดินัลที่ฝรั่งเศสเห็นว่าน่าจะได้รับเลือก และจะดำเนินการในเรื่องนี้ได้มีเพียง 2-3 องค์ แล้วก็ยื่นรายชื่อให้บรรดาพระคาร์ดินัลพิจารณาหนึ่งในรายชื่อนั้นคือ พระคาร์ดินัลกันกาเนลลี เรื่องนี้ทำให้นักประวัติศาสตร์หลายคนสงสัยว่า ท่านกันกาเนลลี อาจลอบเซ็นสัญญาลับกับฝรั่งเศสก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าได้เป็นพระสันตะปาปาจะจัดการเรื่องคณะเยสุอิตให้เรียบร้อย กระนั้นก็ตามข้อถกเถียงนี้ก็ไม่มีมูลและหลักฐานอะไรมายืนยันได้อย่างชัดเจนและโดยส่วนตัวเองท่านก็เคยพูดว่าไม่มีวันยุบคณะเยสุอิต ดังนั้นในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1769  คณะที่ประชุมจึงตกลงเลือกท่านกันกาเนลลีเป็นพระสันตะปาปาโดยใช้พระนามสืบต่อมาว่า พระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 14 
 
ทันทีพวกนักการทูตทั้งหลายก็ให้พระสันตะปาปาองค์ใหม่ยุบคณะเยสุอิตพร้อมกับคำขู่ต่างๆ มากมาย จนที่สุดในวันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 1773 พระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 14 ก็ออกสมณสาสน์ ชื่อ Dominusac Redemptor ประกาศยุบคณะเยสุอิตอย่างเป็นทางการ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างพระศาสนจักรกับฝรั่งเศสและสเปน เพื่อนำสันติกลับคืนมา คณะเยสุอิตต้องทนอยู่ในภาวะไร้ตัวตนนี้ไปจนถึงปี ค.ศ. 1814 ในสมัยของพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 7 จึงได้มีการประกาศรื้อฟื้นคณะขึ้นมาใหม่อีกครั้ง รวมเวลา 41 ปี ที่สมาชิกคณะต้องอยู่อย่างไร้รากฐาน หลายคนยังซื่อสัตย์ต่อจิตตารมณ์และดำเนินชีวิตตามจิตตารมณ์เยสุอิตเหมือนเดิม แต่หลายคนก็ต้องจากไป และที่น่าสนใจคือสมาชิกเยสุอิตที่ทำงานอยู่ในเขตปกครองที่ต่อต้านอำนาจพระสันตะปาปานั้นยังดำเนินชีวิตคณะของตัวเองเหมือนเดิม เช่น ที่อังกฤษ รัสเซีย และที่อื่นๆ ที่ไม่ได้สนใจเรื่องการต่อต้านคณะเยสุอิต พระสันตะปาปาเคลเมนต์ ได้พยายามทุกวิถีทางที่จะรื้อฟื้นอำนาจพระสันตะปาปาขึ้นมาใหม่แม้จะไม่ค่อยได้ผลนัก
 
พระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 14  เป็นผู้เริ่มสร้างพิพิธภัณฑ์ปิโอเคลเมนต์ ในช่วงปลายสมัยของพระองค์นั้นต้องตกอยู่ภายใต้ความกลัวการลอบปลงพระชนม์ด้วยวิธีการต่างๆ พระองค์มีสุขภาพไม่ดีนัก เลยทำให้การบริหารพระศาสนจักรมีปัญหา รวมทั้งความรู้สึกผิดที่ตัวเองได้ยุบคณะเยสุอิต ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของพระสันตะปาปา ที่สุดพระองค์สิ้นพระชนม์ ในวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1774 พร้อมคำเล่าลือว่าพระองค์ถูกลอบวางยาพิษโดยคนของสเปน ดูได้จากร่างของพระองค์เน่าเปื่อยเร็วผิดปรกติ ภายหลังมีการพิสูจน์ศพกันใหม่และก็ลงความเห็นว่าเป็นการสิ้นพระชนม์ตามธรรมชาติแต่คนส่วนใหญ่ก็ยังแคลงใจ อย่างไรก็ตามไม่ว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์อย่างไร หรือด้วยเหตุผลอะไร สิ่งที่ตามมาเบื้องหลังคือความวุ่นวายในพระศาสนจักร รัฐของพระสันตะปาปาถูกรุกราน พระสันตะปาปาองค์ต่อมาถูกจับขังคุก ด้วยอำนาจทางการเมืองของเจ้านครต่างๆ เป็นต้นทางฝรั่งเศส
 
สมัยของพระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 14 นี้ เป็นยุคทองทางดนตรีคลาสสิคยุคหนึ่ง บุคคลที่มีชื่อเสียงมากคือ โมซาร์ท ในปี ค.ศ. 1770 พระสันตะปาปาเคลเมนต์ ได้เขียนจดหมายไปถึงโมซาร์ทและได้มอบตำแหน่ง Knight of the Golden Order แก่โมซาร์ทในฐานะผู้ทำความดี และนำชื่อเสียงและเป็นเกียรติแก่พระศาสนจักร