สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 1
(Pope John Paul I ค.ศ. 1978)
พระองค์ได้รับสมญานามว่า “พระสันตะปาปาแห่งรอยยิ้ม” ช่วงการปกครองของพระองค์สั้นมาก
พระองค์มีพระนามเดิมว่า อัลบีโน ลูซานี เกิดที่ฟอร์โน ดิ คานาเล ในวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 1912 จากครอบครัวยากจน ได้รับศีลบวชเมื่อ วันที่ 7 กรกฏาคม ค.ศ. 1935 จากนั้นก็รับหน้าที่พ่อเจ้าอาวาสในสังฆมณฑลเบลลูโน ก่อนที่จะย้ายไปสอนที่บ้านเณรในสังฆมณฑลนั้น โดยได้รับมอบหมายให้สอนวิชาเทววิทยา กฎหมายพระศาสนจักร และศิลปะศักดิ์สิทธิ์
หลังจากสงครามโลก ครั้งที่ 2 สิ้นสุดแล้ว ท่านก็เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเกรโกเรียนในโรม และได้รับปริญญาเอกทางเทววิทยา เมื่อกลับไปสังฆมณฑลเบลลูโนแล้ว ก็ได้รับตำแหน่งผู้ช่วยพระสังฆราช ในปี ค.ศ. 1947 จากนั้นในปี ค.ศ. 1958 ก็ได้รับอภิเษกเป็นพระสังฆราช แห่งสังฆมณฑลวิตอริโอ เวเนโต ต่อมาพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 6 ได้แต่งตั้งท่านให้เป็นพระอัยกาแห่งเวนิส ในวันที่ 10 ธัน วาคม ค.ศ. 1969 จากนั้นในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ.1973 ท่านก็ได้รับตำแหน่งพระคาร์ดินัล เนื่องจากอยู่ในหมู่บ้านห่างไกลนาน เมื่อเข้า มารับหน้าที่ในเมือง ท่านต้องใช้เวลานานกว่าจะปรับตัวได้ ท่านตกใจที่เห็นนักท่องเที่ยวเดินเข้าออกตามวัดต่างๆ ในเวนิสมากกว่าที่จะไป สวดภาวนา ท่านลูชิอานิเป็นคนง่ายๆ เมื่อปรับตัวเข้ากับที่ใหม่ได้แล้ว คนทั่วไปก็เริ่มคุ้นเคยกับท่านเช่นกัน พวกชาวเมืองคุ้นเคยกับภาพข องพระสังฆราชที่ยิ้มเสมอ ไปไหนมาไหนด้วยเสื้อหล่อสีดำเก่าๆ หยุดกินพิซซ่า สาหร่ายที่ท่านชอบและคุยกับนักเรียนตามสี่แยกไปไหน มักจะใส่รองเท้าแตะ ท่านได้เขียนหนังสือที่หลายคนชอบชื่อว่า IIIustrissimi เป็นหนังสือในเชิงจดหมายไปถึงคนที่มีชื่อเสียงทั้งหลายรวมทั้งพิน็อคคิโอด้วย เมื่อพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 6 สิ้นพระชนม์ ท่านก็ได้เข้าร่วมประชุมกับเหล่าพระคาร์ดินัลเพื่อเลือกพระสันตะปาปาใหม่ ไม่ค่อยมีใครรู้จักท่านมากนัก และท่านก็ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรมากไปกว่าการเป็นคนง่ายๆและน่ารัก แต่เมื่อท่านได้รับเลือกในการลงค ะแนนเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ก็ทำให้เป็นที่แปลกใจของผู้คนเป็นอันมาก สาเหตุสำคัญที่ท่านลูชิอานีได้รับเลือกก็คือพระคาร์ดินัลต้องการพระ สันตะปาปาที่มีประสบการณ์ด้านการอภิบาล การที่ท่านเป็นคนยิ้มเสมอทำให้บรรยากาศเดิมๆ ที่เคร่งขรึมของวาติกันและในสันตะสำนัก หายไป พระองค์เลือกที่จะไม่สวมมงกุฎในวันรับตำแหน่ง แต่สวมผ้าคล้องคอแทน ในวันที่ 5 กันยายน ค.ศ.1978 และใช้นามว่าพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 1 เป็นครั้งแรกที่พระสันตะปาปาใช้ชื่อซ้อนกัน
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงกล่าวคำปราศรัย แก่ผู้เข้าร่วมพิธีสมณภิเษก
บรรดาพระคาร์ดินัลเดินเข้าแถวแสดงความจงรักภักดีต่อพระสันตะปาปาองค์ใหม่
พระคาร์ดินัล เฟลีซี สวมเครื่องยศ Pallium ที่พระศอ
บรรดาผู้เข้าร่วมพิธีสมณภิเษก ในลานหน้ามหาวิหาร นักบุญเปโตร
แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้นเพียง 33 วัน เช้าวันที่ 28 กันยายน ค.ศ.1978 ผู้เฝ้าประตูห้องก็พบว่า พระองค์ได้สิ้นพระชนม์ในห้องบรรท ม นำความเศร้าโศกเสียใจให้แก่ประชาสัตบุรุษเป็นอันมาก พระองค์คงจะสิ้นพระชนม์ด้วยปัญหาของโรคพระทัยวาย พระองค์ปราศรัยได้เพียง 19 ครั้งเท่านั้นเอง.
พระบรมศพของสมเด็จพระสันตะปาปา
ณ ห้องเคลเมนตายน์ ในมหาวิหารนักบุญเปโตร