พระสังฆราชยอเซฟ หลุยส์ กูเด

 
พระสังฆราชยอแซฟ หลุยส์ กูเด เกิดวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ.1750 ที่เมืองโอเรย์ แขวงมอร์บีอัง ได้รับศีลบวชเป็นรองอนุสงฆ์ วันที่ 4 เมษายน ค.ศ.1772 เข้าบ้านเณรคณะมิสซังต่างประเทศ วันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ.1772   ท่านออกจากกรุงปารีสวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1773  รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ ขณะที่ผ่านไปเมืองวันส์  วันที่ 17 ธันวาคม  แล้วลงเรือที่เมืองโลริอังต์ ตอนปลายเดือนธันวาคมนั้นเอง ท่านมาถึงสยามเพื่อถูกจับเข้าคุก ในปี ค.ศ.1775 พร้อมกับพระสังฆราชเลอบ็อง และคุณพ่อการ์โนลต์  พระเจ้าตากไม่พอใจที่พวกข้าราชการคริสตังไม่ยอมไปวัดพุทธ เพื่อดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ซึ่งพระภักษุจัดเตรียมไว้ จึงแก้แค้นเอากับพวกมิสชันนารี ท่านกูเดถูกล่ามโซ่ ที่มือและขา ที่คอก็มีขื่อและถูกเฆี่ยนตี หลายเดือนต่อมา พระเจ้าแผ่นดินก็ทรงปล่อยท่านเป็นอิสระ พร้อมกับพระสังฆราช และเพื่อนมิสชันนารีของท่าน  แต่ต่อมาอีก 3 ปี คือในปี ค.ศ.1779 พระเจ้าแผ่นดินทรงกริ้วพวก  มิสชันนารีอีก และสั่งให้ขับไล่พวกท่านออกนอกประเทศไป
 
ท่านกูเดไปอยู่ที่เกาะถลาง (เกาะภูเก็ต) ได้รับแต่งตั้งเป็นรองประมุขมิสซังในปี ค.ศ.1780 และต่อจากนั้น ก็ออกเดินทางไปเมืองปอนดีเชรี  ที่ซึ่งเราพบท่านในปี ค.ศ.1781 ท่านผ่านไปทางรัฐเกดาห์ ปี ค.ศ.1782 แล้วก็กลับมาที่เกาะถลาง  ที่นั่น ท่านรับสมณโองการ  ลงวันที่ 20 มกราคม ค.ศ.1782 แต่งตั้งเป็นประมุขมิสซังสยาม เมื่อคณาจารย์บ้านเณรคณะมิสซังต่างประเทศ เสนอชื่อท่านเพื่อรับเกียรตินี้ไปที่กรุงโรม พวกท่านยกย่องท่านดังนี้  “ท่านเป็นมิสชันนารีองค์หนึ่งที่รู้จักภาษาไทยดี และก็รู้จักเขียนอักษรไทยด้วย  ท่านมีคุณสมบัติสูงส่งมาก แข็งแรง อ่อนโยน รอบคอบมาก มีความศรัทธามาก และมั่นคง มีความรู้สูงกว่าธรรมดา มีวิจารณญาณสุกใสมาก และมีสุขภาพแข็งแรง.”
 
ในปี ค.ศ.1783  ท่านกลับมาที่บางกอก ที่วัดซางตาครู้ส ที่ซึ่งท่านต้องต่อสู้กับพวกโปรตุเกส ซึ่งปฏิเสธไม่ยอมรับอำนาจของท่าน แม้พระสังฆราชให้ทำการประกาศอย่างสง่าแล้วก็ตาม พวกเขาขอให้ศาลพิจารณาคดี ดังนั้น จึงมีการแบ่งแยกกันในบรรดาคริสตังที่บางกอก : พวกหนึ่ง สนับสนุนพระสังฆราช อีกพวกหนึ่งต่อต้านท่าน  ท่านกูเดพิจารณารอบคอบแล้ว เห็นว่าต้องตีตัวห่างจากพวกเขา ท่านขอพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้าแผ่นดิน และได้รับอนุมัติให้ไปรัฐเกดาห์ เพื่อรับการอภิเษกเป็นพระสังฆราช โดย พระสังฆราชปีโญเดอเบแรน  จะทำพิธีอภิเษกให้  แต่ระหว่างการเดินทางของท่าน ท่านเกิดล้มป่วยลงที่ตะกั่วทุ่ง  ที่ซึ่งท่านหยุดเพื่อทำการฉลองพระคริสตสมภพ ที่นั่น ท่านมรณภาพลง วันที่ 8 มกราคม ค.ศ.1785  และถูกฝังไว้ในวัด
 
ในปี ค.ศ. 1784 ภายใต้การปกครองของท่าน ทางกรุงโรมให้รัฐเกดาห์อยู่ภายใต้การปกครองของประมุขมิสซังสยามอย่างเป็นทางการด้วย.