คุณพ่อ เดชิเร ยัง บัปติสต์ ดือรังด์

 

 
 
คุณพ่อ เดซิเร ยัง บัปติสต์ ดือรังด์
 
Désiré DURAND
 
คุณพ่อ เดซิเร ยัง บัปติสต์ ดือรังด์  เกิดวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1789 ที่แซงต์เชลีดั๊ปแชร์ ในสังฆมณฑลมังด์  คุณพ่อเข้าบ้านเณรคณะมิสซังต่างประเทศในเดือนกันยายน ค.ศ. 1897 และรับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ วันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1901  คุณพ่อออกจากฝรั่งเศสเดินทางมามิสซัง  กรุงสยาม วันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1901 
 
ขั้นแรกคุณพ่อได้รับแต่งตั้งเป็นปลัดของคุณพ่อหลุยส์เล็ตส์แชร์ ที่วัดบางปลาสร้อย (อีกชื่อว่า วัดชลบุรี, ในเขตมิสซังจันทบุรีปัจจุบัน) เพื่อเรียนภาษาจีนแต้จิ๋ว
 
พออยู่ได้ 1 ปี พระสังฆราชเวย์ ประมุขมิสซังฯ ส่งคุณพ่อไปอยู่ที่วัดแม่พระลูกประคำ เพื่อเรียนภาษาจีนแคะพร้อมกับคุณพ่อฟูยาต์ เจ้าอาวาสส่งคุณพ่อทั้งสองไปอยู่ที่วัดบางเชือกหนัง  คุณพ่อยอแซฟ พระสงฆ์ชาวจีน เป็นอาจารย์สอน
 
ในปี ค.ศ. 1903 คุณพ่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นปลัดของคุณพ่อเปอตีต์ ที่วัดเพลง  (ในเขตมิสซังราชบุรีในปัจจุบัน) ที่นั่น คุณพ่อก็เรียนภาษาจีนต่อไปอีก ประมาณสิ้นปี คุณพ่อก็จากวัดเพลง และได้ไปเป็นปลัดของคุณพ่อซาลมอน ที่วัดบางนกแขวก (กลุ่มคริสตังสำคัญและศูนย์ของมิสซังราชบุรี)
 
ปี ค.ศ. 1904 คุณพ่อรับผิดชอบปกครองดูแลวัดลำไทร ร่วมกับคุณพ่อยวง พระสงฆ์พื้นเมืองที่วัดนี้ ต้องทำการจัดสร้างทุกอย่าง เช่น อาคารวัด บ้านพักพระสงฆ์ และอาคารอื่นๆ  ทั้งสองไม่ย่อท้อต่องานนี้ และเวลานี้  (ในปี ค.ศ. 1953) วัดลำไทรมีกลุ่มคริสตังชาวจีน 2,000 คน
 
หลังจากที่คุณพ่ออยู่ในกลุ่มคริสตังนี้ได้ 19 ปี สุขภาพของคุณพ่อก็อ่อนโหยโรยแรง กำลังแรงของคุณพ่อก็ลดถอยลง จนต้องเดินทางกลับไปฝรั่งเศส คุณพ่อออกเดินทางไปสูดอากาศในบ้านเกิดเมืองนอนในช่วงปี ค.ศ.1923 และกลับมาตอนปลายปีนั้นเอง พระสังฆราชแปร์รอส ประมุขมิสซังฯเวลานั้น แต่งตั้งคุณพ่อเป็นเจ้าอาวาสวัดบางนกแขวกแทนคุณพ่อชันลิแอร์ ซึ่งล้มป่วยลงและถึงวาระต้องกลับไปพักผ่อนในปี ค.ศ. 1924  
 
ปี ค.ศ. 1927 เป็นคุณพ่อดือรังด์เอง ในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางนกแขวก ผู้ใหญ่ให้การต้อนรับพวกพระสงฆ์คณะซาเลเซียน ซึ่งมารับผิดชอบดูแลมิสซังใหม่ ชื่อมิสซังราชบุรี  คุณพ่ออยู่ที่นั่นประมาณ 1 ปี เพื่อถ่ายทอดงานต่างๆ ให้คุณพ่อคณะซาเลเซียนได้รู้  แล้วคุณพ่อก็ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าอาวาสวัดปากคลองท่าลาด ประจำอยู่จนถึงปี ค.ศ. 1934  แล้วกลับไปอยู่วัดเดิม คือวัดลำไทร แทนคุณพ่อฟูยาต์ ซึ่งเดินทางไปฮ่องกง
 
ที่ลำไทรใน ปี ค.ศ. 1941  ซึ่งคุณพ่อดือรังด์ถูกจับขังคุกอยู่เป็นเวลา 8 วัน และถูกตำรวจทำร้ายเอาอย่างหนัก  แล้วคุณพ่อพร้อมกับเพื่อนมิชชันนารีอื่นอีก 13 องค์ ก็ต้องเดินทางไปลี้ภัยอยู่ในโคชินไชน่า แล้วใน ปี ค.ศ. 1942  คุณพ่อถึงกลับมาด้วยความชื่นชมยินดี
 
คุณพ่อไปช่วยงานคุณพ่อการิเอ อยู่ที่แปดริ้ว แล้วหลังจากนั้น 1 หรือ 2 ปี ก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลบ้านเณรซึ่งปิดไปแล้ว และดูแลกลุ่มคริสตังชาวจีนกลุ่มใหม่ที่ศรีราชา
 
เมื่อ ปี ค.ศ. 1947  คุณพ่อรู้สึกเหนื่อย  จึงขอพระสังฆราชไปอยู่วัดสักแห่งหนึ่งซึ่งจะพักผ่อน และก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลกลุ่มคริสตังเล็กๆ ที่ปากลัด ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงหนึ่งชั่วโมงทางเรือ
 
ก่อนถึงแก่มรณภาพ คุณพ่อมีความยินดีอันยิ่งใหญ่อยู่อย่างหนึ่ง คือ ความยินดีที่ได้จัดฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งการเป็นพระสงฆ์ ในปี ค.ศ. 1951  พระสังฆราชโชแรง   เป็นประธานจัดงานฉลองอันยิ่งใหญ่ในโอกาสนี้
 
คุณพ่อยังได้เข้าร่วมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งการเป็นพระสงฆ์ของคุณพ่อตาปี แต่พอหลังจากงานฉลองนี้แล้ว คุณพ่อก็ต้องเข้าโรงพยาบาล พออยู่ได้สองสามวันเท่านั้น คุณพ่อดือดังด์ ก็กลับไปอยู่ที่ปากลัด คุณพ่อถึงแก่มรณภาพที่วัดปากลัดนั่นเอง ในวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1953