คุณพ่อ เอเจียน มานีแอล

 

คุณพ่อ เอเจียน มานึแอล

Étienne MANUEL
 
 
คุณพ่อ เอเจียน มานึแอล เกิดปี ค.ศ. 1662 ในเขตวัดแซงต์ ซืลปิส  ที่กรุงปารีส แขวงแซน คุณพ่อเข้าบ้านเณรแซงต์ ซืลปิส วันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1678  และวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 1681  คุณพ่อไปอยู่กับกลุ่มเล็กๆ ที่จัดไว้สำหรับผู้ที่สุขภาพไม่เอื้ออำนวยให้ปฏิบัติตามระเบียบวินัยปกติได้ทั้งหมด หลังจากนั้น คุณพ่อสมัครเข้าบ้านเณรคณะมิสซังต่างประเทศคุณพ่อเป็นเทวศาสตร์บัณฑิตและเป็นอนุสงฆ์แล้ว เมื่อได้รับมอบหมายให้มามิสซังกรุงสยาม คุณพ่อออกเดินทางเดือนมกราคม ค.ศ. 1685 กับคณะทูตที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงส่งมากรุงสยาม และมีเชอวาลิเอร์ เดอ โชม็องต์ เป็นหัวหน้าคณะทูต  อับ เบ ซัวซี พูดถึงเขาว่า "เขามีเสียงไพเราะมาก และรู้จักดนตรีเหมือนกับนักดนตรีชื่อ ลืลลี" คุณพ่อได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ที่อยุธยา ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1686  คุณพ่อทำงานแรกๆ อยู่ที่บางกอก 
 
เมื่อเกิดการปฏิวัติและการเบียดเบียน ในระหว่างที่กองทหารฝรั่งเศสในบังคับบัญชาของนายพล เดอ ฟารช์ส ถูกส่งมากรุงสยาม คุณพ่อมานึแอล ถูกจับขังคุกที่อยุธยา กับมิชชันนารีส่วนมากในกรุงสยามเมื่อปี ค.ศ. 1688  คุณพ่อออกจากคุกในปี ค.ศ. 1690  หนังสือเมโมริอัล ที่พิมพ์ ขึ้นครั้งแรก อ้างถึงจดหมายฉบับหนึ่งของคุณพ่อ ที่บรรยายถึงความทุกข์ทรมานต่างๆ ของคุณพ่อและแสดงให้เห็นการน้อมรับที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง ดังนี้
 
"ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้า ที่ทรงโปรดให้มีเครื่องมือใช้โทษบาปอันใหญ่โตยิ่งในคุกที่กรุงสยาม ข้าพเจ้าคงไม่มีความกล้าหาญที่จะเลือกการใช้โทษบาปอันรุนแรงร้ายกาจเช่นนี้ได้ข้าพเจ้าคงคิดว่าจะทนรับไม่ไหว แต่เนื่องจากสถานการณ์บังคับ จึงทำให้จำต้องรับไหวได้ คุกอันร้ายกาจน่าสยดสยองนี้เป็นโรงเรียนที่ประเสริฐยิ่งสำหรับข้าพเจ้า ในการเรียนรู้สิ่งที่เราไม่ได้เรียนกันตามปกติในบ้านเณร คือ เรียนรู้จากการทนทุกข์ทรมานอันยาวนาน โซ่ทั้งหลายและขื่อติดคอ เป็นบทเรียนต่างๆ ที่ทำให้ข้าพเจ้าเลิกเข้าใจผิดในเรื่องความรักส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตวิญญาณ ถ้าข้าพเจ้าได้ประโยชน์จากแสงสว่างและพระหรรษทานต่างๆ ที่ได้รับในช่วงเวลาที่ยากลำบากและทุกข์ทรมานนี้ ข้าพเจ้าก็จะเป็นอย่างที่มิชชันนารีต้องเป็น คือ ทำหน้าที่ต่างๆ ตามสภาพของตนในคุก มนุษย์ธรรมดาจะเห็นแต่สิ่งที่ทำให้เศร้าสลด ส่วนผู้ที่ยอมทนทุกข์เพื่อพระเป็นเจ้า จะประสพกับผลและความหวานชื่นของคำสัญญาอันนี้ เราจะอยู่กับพวกคุณพ่อในความทุกข์ทรมาน ข้าพเจ้ายังได้รับความบรรเทาใจภายนอกที่มีคุณค่าประเสริฐ ข้าพเจ้าถูกจองจำอยู่ในห้องขังเดียวกับเพื่อนมิชชันนารีองค์หนึ่ง เราไม่เคยใกล้ชิดสนิทกันเช่นนี้เลย เราถูกล่ามโซ่ติดกัน เราได้แบกอิฐและดินด้วยกัน เราถูกเฆี่ยนตีพร้อมกัน   เราทนทุกข์ทรมานจากความหิว   ความกระหาย  และความลำเข็ญ
 
นานาชนิด เหมือนกัน  เรามีที่พักเพียงสถานที่กว้างประมาณ 3 ฟุต และยาว 4 หรือ 5 ฟุต เท่านั้น  ทุกข์ทรมานทุกอย่างที่ข้าพเจ้าได้รับ ทำให้ข้าพเจ้ามั่นคงยิ่งขึ้นในการที่จะทำให้วิญญาณทั้งหลายกลับใจด้วยความเร่าร้อน จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตนี้"
 
จดหมายฉบับสุดท้ายของคุณพ่อซึ่งเขียนจากกรุงสยาม ลงวันที่ 22 กรกฎษคม ค.ศ. 1693 พระสังฆราชลาโน มอบหมายให้คุณพ่อนำโครงร่างระเบียบวินัยทั่วไป ของคณะมิสซังต่างประเทศ ไปโคชินไชน่า และไปประเทศจีน คุณพ่อไปถึงเมืองไฟ โฟ และถึงแก่มรณภาพลงเกือบขณะไปถึงเมืองนั้น ในวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1693