-
Category: ประวัติวัดในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เขต 5
-
Published on Tuesday, 22 September 2015 07:33
-
Written by หอจดหมายเหตุ
-
Hits: 4770
วัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์
2/5 ม.6 ถ.เพชรเกษม ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม 73110
โทร 0-2429-0117-8 FAX 0-2429-0864
E-mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
website: www.santikham.com
การเปิด-เสกวัดใหม่ ทำในวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1999 ต้องถือว่าเป็นวันสำคัญยิ่งสำหรับพระศาสนจักรคาทอลิก โดยเฉพาะอัครสังครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ วัดนี้เป็นวัดที่เกิดขึ้นใหม่ นอกจากจะเป็นวัดที่ใช้ประกอบศาสนพิธีตามปกติเช่นวัดอื่นแล้ว ยังเป็นวัดที่ต้องเอาใจใส่ดูแลบรรดาพี่น้องคริสตชนผู้ล่วงลับไปแล้วที่ฝังร่างหรือกระดูกไว้ ณ สุสานศานติคาม ซึ่งเป็นสุสานกลางของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
เมื่อพ่อได้รับแต่งตั้งให้มาเป็นเจ้าอาวาสที่นี่ (คนแรกและครั้งแรกในชีวิตสงฆ์) พ่อเป็นเสมือนผู้สานต่องานของพระเป็นเจ้าซึ่งได้รับการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อ ความศรัทธาไว้ในชีวิตของพี่น้องคริสตชนจำนวนไม่น้อยจากงานของบรรดาคุณพ่อ ซิสเตอร บราเดอร์ และพี่น้องที่พระเป็นเจ้าทรงใช้เป็นเครื่องมือก่อนหน้าพ่อ ดังนั้นขอให้เราช่วยกันสวดภาวนาต่อพระเจ้า เพื่อน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าจะได้เป็นไปดังที่พระองค์ประสงค์ ทั้งสำหรับคริสตชนที่นี่ และในทุกๆ แห่ง
ความชื่นชมยินดี ในโอกาสนี้เป็นดังการสรรเสริญพระเป็นเจ้า ที่พี่น้องพึงมีมิใช่เพียงในวันฉลองนี้เท่านั้น แต่ต้องมีเสมอในชีวิตประจำวัน และปรากฏเป็นชีวิตที่มีสันติสุขแท้ภายในและภายนอก ทั้งกับพี่น้องคริสตชนและผู้ที่มิใช่คริสตชน เพื่อสะท้อนถึงการประทับอยู่ของพระเป็นเจ้า ดังคำของนักบุญเปาโลที่ว่า “ท่านเป็นวิหารของพระเป็นเจ้าและพระจิตของพระเป็นเจ้าสถิตอยู่ในท่าน” (1 คร.3.16) อันเป็นการบ่งบอกถึงความเชื่อของตนและของชุมชนต่อพระเป็นเจ้า อีกทั้งเป็นประจักษ์พยานถึงองค์พระเป็นเจ้าผู้ทรงรักเราทุกคนอย่างหาที่สุดมิได้ ในองค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงสิ้นพระชนม์กลับคืนชีพ และเสด็จขึ้นสวรรค์ ซึ่งเป็นเป้าหมายของชีวิตที่เราทุกคนปรารถนาที่จะมีร่วมกันสักวันหนึ่ง
บริเวณซอยหมอศรี (ปัจจุบัน คือ ซอยศรีเสถียร) เป็นทุ่งนา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2510 คุณศรี ภูรีโรจน์ หรือที่เรียกกันคุ้นหูว่า “หมอศรี” ได้ทำการจัดสรรแบ่งขายที่ดินเป็นแปลงเล็กๆ ขนาด 100-200 ตารางวา โดยมีจุดประสงค์ที่จะให้เป็นหมู่บ้านคาทอลิก เพราะท่านเล็งเห็นว่าในเขตอำเภอสามพราน คงจะเป็นศูนย์รวมของบ้านนักบวชคณะต่างๆ เป็นแน่ และในระยะเวลานั้นวิทยาลัยแสงธรรมก็ได้ก่อสร้างขึ้น รวมทั้งยังมีวัดนักบุญเปโตร ซึ่งเป็นวัดใหญ่และเก่าแก่วัดหนึ่งในอัครสังฆณฑลกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่จัดสรรแห่งนี้
คริสตชนที่อยู่ในบริเวณนี้ก็สามารถไปร่วมมิสซาและพิธีกรรมต่างๆ ได้จึงมีคาทอลิกจากวัดเซนต์หลุยส์ วัดอัสสัมชัญ วัดกาลหว่าร์ วัดสามเสน อำเภอขลุง จันทบุรี ราชบุรี อยุธยา ปทุมธานี นครราชสีมา และวัดอื่นๆ อีกหลายแห่งเข้ามาอยู่ในบริเวณนี้ ต่อมาก็มีบ้านนักบวชที่มาสร้างอยู่ในซอยนี้เช่นกันนั่นคือ บ้านคณะคามิลเลี่ยน บ้านคณะธรรมทูตแห่งมารีนิรมล (O.M.I.) และบ้านซิสเตอร์คณะซาเลเซียน ดังนี้คริสตชนในซอยศรีเสถียรจึงได้ไปร่วมมิสซาและพิธีกรรมต่างๆ ตามบ้านนักบวชเหล่านี้
อยู่มาเมื่อกลางปี พ.ศ.2533 คุณพ่อพิบูลย์ วิสิฐนนทชัย (ขณะนั้นเป็นอธิการบ้านเณรเล็กยอแซฟ) ได้รับเชิญคริสตชนที่อาศัยอยู่ในซอยศรีเสถียรมาประชุมพร้อมกันที่หอประชุมโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ เพราะคุณพ่อเห็นว่าคริสตชนที่นี้ต่างคนต่างอยู่ ไม่รู้จักกันคุณพ่อจึงมีความปรารถนาที่จะให้พวกเรามีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อพัฒนาชีวิตภายในของพวกเราให้ดีขึ้น ในการประชุมนั้นคุณพ่อให้ทุกคนเสนอความคิดเห็น พวกเราต่างมีความเห็นพ้องต้องกันว่า เราอยากให้มีวัดในซอยของเรา คุณพ่อจึงแนะนำให้พวกเรารวมตัวกันให้ได้ก่อนโดยให้มีการพบปะกันเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสวดภาวนาร่วมกันทุกอาทิตย์ คือ ทุกคืนวันเสาร์ โดยใช้สถานที่ของบ้านคณะคามิลเลี่ยน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคุณพ่อโจวันนี คอนตารีน (ค.พ.ยอห์น) และเป็นกำลังที่เข้มแข็งของกลุ่ม นอกจากนั้นคุณพ่อพิบูลย์ ยังได้เชิญคุณพ่ออาเรนส์ บรูโน และบราเดอร์ (คณะ O.M.I.) และซิสเตอร์คณะซาเลเซียน (โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์) เข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมทั้งให้มีการสำรวจคริสตังในบริเวณซอยศรีเสถียรและใกล้เคียง ซึ่งพบว่าในเวลานั้นคริสตังอยู่ประมาณ 70 ครอบครัว
การรวมตัวครั้งนั้นคุณพ่อแนะนำให้พวกเราตั้งกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มพ่อบ้าน กลุ่มเยาวชน เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมวันแม่ วันพ่อ วันเยาวชน วันผู้สูงอายุ นอกนั้นยังมีการสวดสายประคำตามบ้าน เพื่อสวดภาวนาร้องเพลงอวยพร ในเทศกาลพระคริสตสมภพและอื่นๆ ในการทำกิจกรรมต่างๆ ทางกลุ่มต้องขอใช้สถานที่จากบ้านคณะคามิลเลี่ยนบ้าง บ้านสวนยอแซฟบ้าง โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์บ้าง พวกเราจึงได้ปรารภกันว่าน่าจะมีสถานที่หรือวัดของเราเอง เพื่อพวกเราจะได้ร่วมพิธีกรรม ทำกิจศรัทธา หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเป็นกิจจะลักษณะให้ดียิ่งขึ้น และวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่จะช่วยพวกเราได้ก็คือการสวดภาวนาขอจากพระด้วยความเชื่อและศรัทธาอย่างจริงจังนี่คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ทั้งนี้และทั้งนั้นผู้เขียนใคร่ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อ บราเดอร์ ซิสเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อพิบูลย์ ณ ที่นี้ด้วย ถ้าปราศจากพวกท่านแล้ว พวกเราคงเดินมาไม่ถึงจุดนี้แน่ แล้ววันที่สำคัญวันหนึ่งก็มาถึง เมื่อทางคณะธรรมทูตแห่งมารีนิรมล (O.M.I.) ได้จัดให้มีการเสกบ้านของคณะขึ้น โดย พระคาร์ดินัล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธาน พวกเราก็ได้รับเชิญไปร่วมงานและผู้เขียนเองก็ได้รับเกียรติให้เป็นผู้มอบกระเช้าผลไม้ถวายแด่พระคุณเจ้า โอกาสนั้นพระคุณเจ้าได้พูดคุยกับผู้เขียนหลายเรื่อง ไม่ทราบว่าเพราะอะไรจึงได้เรียนถามพระคุณเจ้าว่าพวกเราชาวศรีเสถียรจะมีหวังได้มีวัดของตนเองหรือไม่ พระคุณเจ้าได้กรุณาตอบว่า มีแน่ๆ แต่กำหนดแน่นอนไม่ได้ว่าเมื่อไร ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาพวกเราก็มีความหวังว่าเราจะได้วัดของเราแน่นอน
เมื่อคุณพ่อพิบูลย์ เห็นว่าพวกเราได้มีการรวมกลุ่มกันดีแล้ว จึงได้ค่อยๆ วางมือไปเพื่อให้พวกเราจัดการบริหารกลุ่มกันเอง คุณพ่อได้เน้นว่าเราจะต้องพึ่งตัวเอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ได้จะยึดติดอยู่กับพระสงฆ์ นักบวชองค์ใดองค์หนึ่งเป็นแกนนำตลอดไปไม่ได้ เพราะมีการสับเปลี่ยน โยกย้ายหน้าที่ ความรับผิดชอบ อยู่ตามวาระ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อคุณพ่อพิบูลย์ได้ย้ายไปรับหน้าที่ในกรุงเทพฯ อีกทั้งคุณพ่อ บราเดอร์และซิสเตอร์หลายท่านก็โยกย้ายกันไปในที่ต่างๆ กลุ่มก็ขาดแกนนำ กิจกรรมต่างๆ ก็ลดน้อยถอยลง จนไม่มีอะไรเหลือนอกจากความทรงจำ
ต่อมาชาวบ้านก็ได้รวมตัวกันโดยมีคุณพ่อไพรัช ศรีประเสริฐ เป็นผู้นำในครั้งนี้เป็นการรวมตัวครั้งที่สองพร้อมกับพี่น้องที่มิใช่คาทอลิก โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาซอยศรีเสถียรที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม ด้วยการซ่อมแซมและปรับปรุงถนนสายหลัก ล้างและซ่อมท่อระบายน้ำ ติดไฟริมถนนสายหลักเพื่อให้แสงสว่างแก่ผู้ที่สัญจรไปมาในเวลาค่ำคืน ซึ่งนับได้ว่าเป็นการทำประโยชน์ให้กับสังคมซอยศรีเสถียร แต่เมื่องานนี้สำเร็จลุล่วงไปแล้วก็เป็นที่น่าเสียดายยิ่งที่กลุ่มคริสตชนซอยศรีเสถียรก็ขาดการร่วมมือ และละเลยในการทำกิจกรรมอีกเช่นเคย
จากนั้นอีก 2-3 ปี ในบริเวณที่ดินของสังฆมณฑล ตรงปากซอยซ้ายมือ (จากถนนเพชรเกษม) ได้มีการล้อมรั้วลวดหนาม ถมดิน และเริ่มก่อสร้างอาคารช่วงเวลานั้นมีเสียงพูดต่างๆ กันไป บ้างว่าเป็นการสร้างสนามกีฬา บ้างว่าเป็นโรงเรียน บ้างว่าเป็นหอประชุม ช่างเถอะอะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิดแต่ผู้เขียนเองมีความเชื่อและแน่ใจว่า คงต้องมีการก่อสร้างวัดขึ้นอย่างแน่นอน
แล้ววันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2541 เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของเรา ได้พาชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งมีกริยามารยาทเป็นที่น่าเคารพนับถือ และมีใบหน้าอิ่มเอิบไปด้วยรอยยิ้มมาพบผู้เขียนที่บ้าน และแนะนำให้รู้จักว่า นี่คือ คุณพ่อเจ้าอาวาสวัดองค์ใหม่ วัดของเรา วัดที่กำลังก่อสร้างอยู่ที่ปากทางเข้าซอยศรีเสถียรไง ผู้เขียนถึงกับอึ้งไป ครู่หนึ่ง ด้วยความปิติยินดีว่าความหวัง ความฝันของเราได้เป็นความจริงแล้ว วัดของเรา วัดของคริสตชนทุกคนเกิดขึ้นที่นี่แล้ว
คุณพ่อถนอมศักดิ์ เลื่อนประไพ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสปี ค.ศ. 1998 - 2002 (เจ้าอาวาสองค์แรก)
คุณพ่อพงษ์เกษม สังวาลเพ็ชร ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสปี ค.ศ. 2002 - 2004
คุณพ่อสุรศักดิ์ อัมพาภรณ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปี ค.ศ. 2004 - 2007
คุณพ่อเดชา อาภรณ์รัตน์ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปี ค.ศ. 2007 - 2008
คุณพ่อชูศักดิ์ บุญอนันตบุตร ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปี ค.ศ.2008 - 2009
คุณพ่อชัชวาล ศุภลักษณ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปี ค.ศ.2009 - 2021
คุณพ่อกิตติศักดิ์ กาญจนธานินทร์ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปี ค.ศ. 2021 - ปัจจุบัน
ปี ค.ศ. 2021 สัตบุรุษของวัดไปร่วมพิธีปิดปีนักบุญยอแซฟ ที่วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา ยึดมาตรการความปลอดภัยของภาครัฐ
จัดโครงการ "ถุงปันสุข" ช่วยเหลือครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือ ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19
ปี ค.ศ. 2022 ฉลองวัดได้มีการจัดแสดงความยินดีกับคุณพ่อชูศักดิ์ บุญอนันตบุตร อดีตเจ้าอาวาสโอกาส ฉลองครบ 25 ปีบวช โดย เชิญมาเป็นประธานฉลองวัดพร้อมกับเพื่อนพระสงฆ์ที่บวชครบ 25 ปีด้วย
- จัดให้มีล้างบาปคริสตชนใหม่ที่เรียนคำสอนจบหลักสูตรในคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์
ปี ค.ศ. 2023
- เริ่มเปิดให้มีการฉลองวัดแบบสาธารณะได้เชิญ คุณพ่อชวลิต กิจเจริญ มาเป็นประธานฉลองวัดโอกาสคุณพ่อบวชเป็นพระสงฆ์ครบ 50 ปี มีสัตบุรุษต่างวัดมาร่วมฉลองวัดพอสมควร
- คณพลมารีย์คูเรีย เขต 5 จัดกิจกรรมอาซีแอส ในเดือนมีนาคม มีสมาชิกมาร่วมพิธีปฏิญาณประจำปีประมาณ 123 คน
- กลุ่มส่งเสริมชีวิตครอบครัวของวัดได้ร่วมทำกิจกรรมกับแผนกส่งเสริมชีวิตครอบครัวของสังฆมณฑลฯ ในการจัดอบรมคู่แต่งงานที่มาวัดต่างๆ ในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ และได้ส่งคู่แต่งงานจากวัดพระเยซูเจ้าฯ เข้าร่วมอบรมด้วย
- เป็นปีที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดได้ลดลง จึงเริ่มเปิดวัดให้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น สังเกตจำนวนสัตบุรุษยังไม่มากและการทำบุญสวดน้อยลง อาจเป็นเรื่องเศรษฐกิจที่ทุกคนถูกกระทบในช่วงระบาดของโควิด
แผนที่การเดินทาง