วัดพระแม่สกลสงเคราะห์ (วัดบางบัวทอง)

 

วัดพระแม่สกลสงเคราะห์ บางบัวทอง

 
 ตั้งอยู่เลขที่ 179  หมู่ 5  ต.โสนลอย  อ .บางบัวทอง  นนทบุรี  11110 
โทร. 0-2920-1015,  โทรสาร 0-2571-1716
บ้านมาเซอร์ 0-2920-1014, 0-2571-1436
 
เดิมทีก่อนที่จะมีวัดเพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีมิสซา บรรดาสัตบุรุษที่ย้ายกันมาจากที่ต่างๆ โดยเฉพาะจากสามเสนที่ย้ายกันมาทำมาหากินอยู่ที่บางบัวทอง พวกเขาก็ได้รับกำลังใจจากการเดินทางที่ค่อนข้างลำบากของคุณพ่อแฟร์เลย์ ก็มีโอกาสโปรดศีลล้างบาปให้กับพวกเขา
 
คุณพ่อบรัวซาต์
เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 1 ในปี ค.ศ. 1924-1926
 
คุณพ่อบรัวซาต์ ได้มาเยี่ยมเยือนพวกเขาเป็นประจำ และเปิดบัญชีศีลล้างบาปของสัตบุรุษตั้งแต่ปี ค.ศ.1920 แต่เพราะยังไม่มีวัดเพื่อใช้ประกอบพิธีมิสซา จึงทำให้บรรดาสัตบุรุษบางบัวทองต้องพายเรือแจวเรือ เพื่อไปร่วมพิธีมิสซาในวันฉลองสำคัญ เช่นปาสกา คริสต์มาสที่วัดสามเสนเป็นประจำทุกปี
 
ในปี ค.ศ.1924  คุณพ่อบรัวซาต์ เห็นว่ามีคริสตังมาอยู่ที่บางบัวทองเป็นจำนวนพอสมควร คุณพ่อจึงได้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง 
 
ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดแม่พระสกลสงเคราะห์ในปัจจุบัน ซื้อห้องแถวหลังหนึ่งในตลาดเพื่อใช้เป็นวัด และสอนคำสอนให้แก่เด็กคริสตังค์ พร้อมทั้งเปิดเป็นโรงเรียนสอนเด็กชายด้วย คุณพ่อเองได้สร้างโรงเรียนหญิงในที่ดินที่ซื้อไว้ และตั้งชื่อโรงเรียนว่า แม่พระสกลสงเคราะห์ โดยให้อยู่ในความดูแลของภคินีพระหฤทัย โดยในขณะนั้นยังไม่มีโรงเรียนสำหรับเด็กหญิงในเขต บางบัวทองเลย ภายหลังจึงได้ย้ายเด็กจากตลาดให้มาเรียนในที่ดินของวัดด้วย ในปี ค.ศ.1925 คุณพ่อซื้อไม้เตรียมสำหรับการสร้างวัด แต่ยังไม่ทันดำเนินการ คุณพ่อได้รับคำสั่งให้ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านปลายนาในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1926
 
วัดหลังแรก (ค.ศ. 1927-1931)
คุณพ่อตาปี เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 2 ในปี ค.ศ. 1926-1940
 
คุณพ่อตาปี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสามเสนในขณะนั้น ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของคุณพ่อบรัวซาต์ คุณพ่อได้สร้างอาคารไม้ 2 ชั้น ยกพื้นสูง ด้วยไม้สัก มีเสาปูนขนาดใหญ่หล่อขึ้นเองเป็นตอหม้อ มีระเบียงรอบ 3 ด้าน ชั้นล่างใช้เป็นห้องเรียน เพื่อขยายโรงเรียนเดิมของคุณพ่อบรัวซาต์ อาคารนี้มีบันไดอยู่ทางขวามือขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นวัด ด้านหน้าของวัดหันไปทางทิศตะวันออก เช่นเดียวกับวัด ในปัจจุบัน เพียงแต่หอระฆังปลูกแยกออกไปต่างหากด้านซ้ายมือ วัดหลังนี้ได้ทำพิธีเสกเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1927โดย พระสังฆราชเรอเน แปร์รรอส ในความอุปถัมภ์ของแม่พระสกลสง เคราะห์ ตามความปรารถนาของคุณพ่อบริซาต์ 
 
นอกจากสร้างวัดแล้วยังได้สร้างบ้านพักพระสงฆ์ไว้อีกด้วย ภายหลังคุณพ่อตาปี ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็นโรงเรียนพระแม่สกลสงเคราะห์  คุณพ่อตาปี ยังได้ซื้อที่นาในบริเวณนั้นไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของวัด คุณพ่อเห็นว่า คริสตังจาก วัดสามเสนที่ย้ายมาอยู่บางบัวทอง คงจะมีจำนวนน้อย คุณพ่อจึงเปิดให้คริสตังค์ชาวจีนเข้ามาเช่าเพื่อทำสวน จำนวนของสัตบุรุษวัดพระแม่สกลสงเคราะห์ในระยะต่อมาจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจำนวนนักเรียนก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ในคืนหนึ่งของเดือนมิถุนายน ค.ศ.1931 วัดพระแม่สกลสงเคราะห์หลังแรกได้ถูกเพลิงเผาผลาญไปจนหมดสิ้น
 
 
วัดหลังที่ 2 (ค.ศ.1933-1992)
 
แม้กระนั้นคุณพ่อตาปีเองก็มิได้ท้อถอย คุณพ่อลงมือสร้างวัดหลังที่ 2 ในปีต่อมา และทำการเสกเดือนมกราคม ค.ศ.1933 โดยพูดถึงวัดพระแม่สกลสงเคราะห์ว่า ผู้หว่านข้าว รดนาด้วยน้ำตา คุณพ่อตาปี ได้ดูแลวัดตลอดจนถึงปี ค.ศ.1940 ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ในบางครั้งคุณพ่อได้มอบให้คุณพ่อหลุยส์ สง่า สังขรัตน์ ปลัดของคุณพ่อที่สามเสนมาแทนบ้าง
 
คุณพ่อหลุยส์ สง่า สังขรัตน์  
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ในปี ค.ศ.1940-1945
 
ช่วงที่เกิดกรณีพิพากอินโดจีน คุณพ่อหลุยส์สง่า สังขรัตน์ ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดพระแม่สกลสงเคราะห์ ดังนั้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1940 เป็นต้นมา วัดแม่พระสกลสงเคราะห์ จึงมิได้ขึ้นอยู่กับวัดสามเสนอีกต่อไป คุณพ่อหลุยส์ได้สร้างบ้านพักพระสงฆ์ขึ้นใหม่เป็นอาคารไม้สองชั้น ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของวัดซึ่งใช้เป็นบ้านพักพระสงฆ์ ก่อนที่จะรื้อถอนออกไปในปี ค.ศ.1992
 
คุณพ่อปอล สวัสดิ์  กฤษเจริญ 
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 4 ในปี ค.ศ.1945-1946
 
   
 
คุณพ่อวิกเตอร์ ลารเก
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 5 เดือนมกราคม-เดือนมิถุนายน ค.ศ.1947
  
คุณพ่อยวงบัปติสตากิมฮั้ง แซ่เล้า
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 6 ในปี ค.ศ. 1947-1965
 
ในปี ค.ศ.1950 คุณพ่อกิมฮั้ง แซ่เล้า ได้มาประจำที่วัดแห่งนี้ คุณพ่อได้สร้างอาคารเรียน 2 ชั้นและปรับปรุงบริเวณ ปลูกต้นไม้ มะม่วง มะพร้าว เป็นจำนวนมาก คุณพ่อเล่นออร์แกนได้เก่งมาก คุณพ่อเป็นนักดนตรีที่ต้องการให้ลูกๆในวัด ได้มีโอกาสฝึกฝนร้องบทเพลงเกรกอเรียน ซึ่งได้มีการหัดขับร้องอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ในบทเทศน์ระหว่างมิสซา จะมี 2 ภาษา ทั้งไทยและจีน คุณพ่อได้อยู่วัดพระแม่สกลสงเคราะห์นานถึง 18 ปี ดังนั้นในปี ค.ศ.1965 เมื่อคุณพ่อต้องย้ายไป จึงเป็นเหตุแห่งความอาลัยอาวรณ์ของบรรดาสัตบุรุษเป็นจำนวนมาก 
 
 
คุณพ่อคาเบรียล โรเชอโร
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 7 ในปี ค.ศ.1965-1970
 
ในปี ค.ศ.1965  เมื่อคุณพ่อคาเบรียล โรเชอโร ได้รับการแต่งตั้งจากพระสังฆราช ยวง นิตโย ให้มาประจำที่วัดพระแม่สกลสงเคราะห์ งานที่คุณพ่อโรเชอโร จะต้องดำเนินการต่อให้สำเร็จนั้นยังมีอีกหลายอย่าง ในขณะนั้นโรงเรียนของวัดมีเพียงอาคารไม้ 2 ชั้น เพียงหลังเดียว ซึ่งเป็นทั้งห้องครูใหญ่ ห้องเรียน ห้องขายขนม ห้องครัว อยู่รวมกัน มีห้องเรียนใช้ได้เพียง 6 ห้อง และเยื้องกันมีอาคาร 2 ชั้น ซึ่งสร้างได้แต่เฉพาะชั้นบน มีห้องเรียนเพียง 2 ห้องเท่านั้น
 
คุณพ่อโรเชอโร ได้หาเงินมาสนับสนุนเพื่อสร้างต่อเติมอาคารไม้ 2 ชั้น ที่ค้างอยู่ให้เสร็จได้อีก 2 ห้อง เรียนและสร้างอาคารชั้นเดียวด้านทิศเหนือขนานกับวัด อีก 5 ห้องเรียน และสิ่งที่นับได้ ว่าได้นำความเจริญมาสู่วัดเป็นเป็นอย่างมาก คือ คุณพ่อได้เจรจากับผู้เช่าหลายราย ขอให้ผู้เช่าเหล่านั้นยินยอมย้ายออกไป เพื่อก่อสร้างถนนคอนกรีตมาตรฐานขนาด 8 เมตรจากตลาดสด เข้ามาถึงวัด แต่น่าเสียดายที่เงินที่คุณพ่อได้มานั้นหมดเสียก่อน จึงได้ถนนคอนกรีตเพียงครึ่งเดียว คุณพ่อได้ขอให้ภคินีคณะเซนต์ปอลเดอชาร์ตมาดูแลโรงเรียน ทำให้โรงเรียนมีนักเรียนเพิ่มขึ้นทุกปี แต่แล้วใน ปี ค.ศ.1971 คุณพ่อประสบอุบัติเหตุ ตกลงจากหน้าต่างห้องนอนลงมา และถึงแก่มรณภาพที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์
 
คุณพ่อมีคาแอล อดุลย์ คูรัตน์ 
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 8  ในปี ค.ศ.1971-1973  
 
คุณพ่อได้สะสางงานต่างๆ ของทางโรงเรียน ให้เรียบร้อยยิ่งขึ้น คุณพ่อได้พยายามให้เด็กและเยาวชนของวัดได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือปรับปรุงบริเวณวัด และโรงเรียนให้สะอาดสวย งามมากขึ้น คุณพ่อได้ฝึกหัดให้เด็กรู้จักขับร้องเพลงให้ดีและไพเราะความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ตรงไปตรงมาของคุณพ่อ ทำให้สัตบุรุษชาวบางบัวทอง ยกย่องและนับถือเป็นอย่างยิ่ง และคุณพ่อได้สร้างกำแพงรั้วด้านหน้าของวัดเป็นคอนกรีตแทนไม้ที่ชำรุดทรุดโทรมไป คุณพ่อได้จากวัดพระแม่สกล สงเคราะห์ไปในปี ค.ศ.1973  
 
คุณพ่อยอแซฟ วิจิตร ลิขิตธรรม   
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 9 ในปี ค.ศ. 1973-1976
 
คุณพ่อได้เปิดให้วัดมีการติดต่อกับสังคมภายนอกวัดที่กว้างไกลมากขึ้น ทั้งสัตบุรุษต่างวัด และพี่น้องชาวต่างศาสนา คุณพ่อศรัทธาต่อแม่พระเป็นพิเศษ คุณพ่อได้สนับสนุนและร่วมแรงในการสร้างแผ่นปูนเพื่อใช้ปูถนนเข้าไปตามบ้านและสวนผัก เพื่อให้สัตบุรุษสามารถมาร่วมพิธีมิสซาได้โดย  สะดวกยิ่งขึ้น
    
คุณพ่อเปโตร สานิจ สถะวีระวงส์  
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 10 ในปี ค.ศ.1976-1979
 
คุณพ่อปอล ถาวร กิจสกุล  
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 11  ในปี ค.ศ. 1979-1981
 
คุณพ่อคิดจะสร้างศาลาแม่พระ เพื่อเป็นที่สวดศพ และใช้เป็นสถานที่สำหรับกิจกรรมที่เกี่ยว ข้องกับทางวัดและโรงเรียน ศาลาพระแม่ได้เริ่มลงมือก่อสร้างและวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1981 แต่ยังไม่ทันเสร็จเรียบร้อย คุณพ่อก็ได้ย้ายไปก่อน
 
คุณพ่อยวง ไพริน  เกิดสมุทร
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 13  ในปี ค.ศ. 1986-1987
 
คุณพ่อได้รื้อฟื้นการแห่แม่พระ ทุกวันเสาร์ต้นเดือน ปรับปรุงบริเวณวัดให้สวยงามยิ่งขึ้น 
 
คุณพ่อเปโตร สุรสิทธิ์  ชุ่มศรีพันธุ์
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 14  ในปี ค.ศ. 1987-1991
 
คุณพ่อได้พัฒนาทั้งวัดและโรงเรียนอย่างเต็มรูปแบบ โดยสร้างอาคารเรียนของประถม มัธยม และอนุบาล โรงอาหาร วัด สุสาน ศาลาสวดศพ รวมทั้งโรงเลี้ยงติดกับศาลาสวดศพด้วย งานพัฒนาเริ่มจากการถมที่ดิน บ่อน้ำ ร่องสวน รวมบริเวณโดยรอบวัด และโรงเรียน เมื่อถมที่ดินเสร็จแล้วในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.1989 จึงเริ่มลงมือก่อสร้างอาคารเรียนหลังแรก เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 5 ชั้น เสร็จทันใช้ในปีการศึกษา 2533  และในช่วงปลายปีนั้น ก็เริ่มทำการก่อสร้างสุสานใหม่ด้วย
 
ในระหว่างนั้นผู้เช่าที่ดินทำสวนหลังวัดก็ได้คืนสิทธิในการเช่าที่ดินทำสวนให้กับวัด เพื่อให้วัดทำการถมที่ดินเพื่อปรับปรุงเป็นหมู่บ้าน กลางเดือนมกราคม ค.ศ.1990 มีการประชุมกับผู้เช่า ซึ่งเป็นลูกวัดที่จำต้องย้ายบ้านออกไปจากที่เช่าเดิม เพื่อไปปลูกสร้างในหมู่บ้านที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ การเลือกที่ดินนั้นใช้วิธีจับฉลาก เลือกลำดับผู้เช่า ที่ได้หมายเลขก่อนมีสิทธิเลือกแปลงที่ดินก่อน หลังจากนั้นต้นเดือนมีนาคม จึงเริ่มรื้อถอนบ้านไปปลูกในที่ดินดังกล่าว การดำเนินงานก่อ สร้างเขื่อนริมน้ำ ตั้งแต่วัดไปจนจรดที่เช่าของมาสเตอร์สะอาด ธรรมภิรักษ์ ก็ได้ดำเนินการจนเสร็จสิ้นในสมัยคุณพ่อสุรสิทธิ์
 
ในเดือนเมษายน ค.ศ.1990 เริ่มย้ายสุสานเดิมออกไปยังสุสานใหม่ที่สร้างแล้วเสร็จ สุสานเดิมนั้นย้ายออกไปหมดแล้ว ก็พัฒนาปรับปรุงเป็นสนามบาสเกตบอล ต่อมาจึงได้สร้างอาคารอนุบาล เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 4 ชั้น รูปตัว U 
 
วัดหลังที่ 3 (ค.ศ 1992-ปัจจุบัน)
 
วันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ.1991 พระอัครสังฆราชเรนาโต มาร์ติโน ผู้แทนถาวรของรัฐวาติกัน ประจำองค์การสหประชาชาติ ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์วัดใหม่ เมื่อครั้งที่ วัดพระแม่สกลสงเคราะห์ฉลองครบรอบ 50 ปี เมื่อเดือนพฤษภาคม พระอัครสังฆราชเรนาโต มาร์ติโน ได้มาร่วมฉลองและได้ปรารถนากับพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู น่าจะสร้างวัดใหม่ให้กับบางบัวทอง ดังนั้น เมื่อบางบัวทองจะมีวัดใหม่ พระอัครสังฆราชเรนาโต มาร์ติโน จึงได้รับเชิญมาเพื่อร่วมขอบพระคุณพระเป็นเจ้าในวโรกาสอันศักดิ์สิทธิ์นี้
 
งานก่อสร้างวัด ถนน และปรับพื้นที่โดยรอบวัดและโรงเรียนได้ดำเนินต่อไป แต่ในขณะที่งานก่อสร้างต่างๆ ยังไม่แล้วเสร็จ คุณพ่อสุรสิทธิ์ก็ต้องย้ายไปในปี ค.ศ. 1991
 
คุณพ่อยอแซฟ ทวีศักดิ์  กิจเจริญ 
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 15  ในปี ค.ศ. 1991-1996
 
หลังจากที่คุณพ่อศึกษาจบจากอิตาลีแล้ว คุณพ่อได้เข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระแม่สกลสงเคราะห์และได้ดำเนินการต่อทั้งในการก่อสร้างวัด ศาลาสวดศพและโรงเลี้ยง รวมทั้งบ้านพักพระสงฆ์และบ้านพักภคินีของคณะเซอร์ก็ได้รับการก่อสร้างจนเสร็จเรียบร้อยทั้งหมด วัด โรงเรียน สนามเด็กเล่น สุสาน ศาลา อเนกประสงค์ ศาลาโรงเลี้ยง บ้านพักพระสงฆ์ และภคินี รวมทั้งหมู่บ้านพรมารี ที่ได้ดำเนินการก่อสร้างจนเสร็จสิ้นและได้มีพิธีเสกวัดในวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ.1992 โดยพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู
 
 
ทั้งหมดนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของการพัฒนา วัดพระแม่สกลสงเคราะห์อย่างเต็มรูปแบบไปพร้อมกันหมดทุกด้าน จนผู้ที่จากวัดพระแม่สกลสงเคราะห์ไปเป็นเวลานานๆ และเมื่อมีโอกาสกลับมาอีกครั้งหนึ่งถึงกับตะลึง บ้างก็งงที่มิอาจจดจำสภาพเดิมๆ ได้เลย ความสวยงามต่างๆ ที่พระเป็นเจ้าได้ประทานมาให้กับวัดพระแม่สกลสงเคราะห์ในครั้งนี้ ควรยิ่งแล้วที่เราทุกๆ คนจะต้องโมทนา ขอบพระคุณพระเป็นเจ้าในพระเมตตาของพระองค์ และเป็นหน้าที่โดยชอบธรรมที่พวกเราทุกคนจะต้องช่วยกันดูแลรักษาให้สมบัติที่พระทรงประทานมาให้ได้รับการเทิดพระเกียรติอย่างเหมาะสม และคงอยู่กับวัดพระแม่สกลสงเคราะห์ สืบต่อไปนานเกินกว่าที่เราท่านจะสามารถคอยอยู่เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อไปได้
 
คุณพ่อยอห์น วิชชุกรณ์  เกตุภาพ
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 16  ในปี ค.ศ. 1996 - 1999
 
คุณพ่อยวง สุเทพ  พงษ์วิรัชไชย
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 17 ในปี ค.ศ. 1999 - 2004 
 
คุณพ่อเปาโล พจนารถ นิรมลทินวงศ์
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 18  ในปี ค.ศ. 2004 - 2009 
 
คุณพ่อบุญเสริม   เนื่องพลี
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 19  ในปี ค.ศ. 2009 - 2014
 
สร้างวัดน้อยนักบุญยอห์นปอลที่ 2 พระสันตะปาปา ทำการเสกโดย พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู วันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 2013
 
โครงการปลูกข้าวบนเนื้อที่ประมาณ 90 ไร่ เดิมเป็นพื้นที่รกร้าง
 
คุณพ่อบัณทิตย์ ประจงกิจ
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 20  ในปี ค.ศ. 2014 - 2021
 
คุณพ่อสำรวย กิจสำเร็จ 
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 21 ในปี ค.ศ. 2021 - ปัจจุบัน
 
คุณพ่อวิวัฒน์ แพร่สิริ ได้รับแต่งแต่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ค.ศ. 2022 - ปัจจุบัน
 
 
 
 
 
แผนที่การเดินทาง